Change Player Size Watch this video in a new windowRetrospect เพราะว่ารัก, ปล่อยฉัน Live
โรงงานที่ผมทำคับ ขอโปรโมตหน่อย
วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2552
30/11/52
วันนีเริ่มงานด้วยการสรุปผลการสำรวจมาทั้งหมด ว่ามียอดเท่าไร มีการคลาดเคลื่อนจากข้อมูลที่จดมามากเท่าไร ผลการสรุปทั้งหมดจากข้อมูล ทั้งหมด 1730 รายการ นำมารวมรวมยอดว่ามการเจอกี่อัน ไม่เจอกี่อัน แล้วมีตรวจสอบย้อนหลังจากการสรุปยอด ที่ผ่านมาว่ามีข้อมลูที่ได้รันนับเบอมาหรือไม่ งานนี้เหมือนจาง่านแต่ทำจริงๆ มานยากมาก ข้อมูลมาเยอะ ทามไปนานๆแล้วมันจาเกิดอาการตาลายอีก งานนี้ต้องทามอีกหลายวันแน่ๆ
วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
27/11/52
วันนี้งานในตอนเช้าเริ่มต้นด้วยการเซตคอมที่ห้องของรองกรรมการบริหาร คือได้มีการ เสียบสายต่างๆ เช่นสายจอ สายเม้าประมานนี้ พอเสร็จก้อมีรวมรวมข้อมูลที่ได้ไปเกบข้อมูลได้ทั้งอาทิตย์ พอตกบ่ายก้อได้มีการเซคที่ห้องประชุมใหญ่ ว่าเสียงและภาพที่จะได้ไหม ผลที่ได้ภาพผ่าน แต่เสียงที่นำเสนอ ไม่ได้เพราะได้มีการตัดสายเสียที่เปนเสียงใส่ออก เหลือแต่เสียงเบส ผมก้อได้ไปตามพี่ช่างไฟมาทำ หลังจากทะเสดก้อไม่มีปันหาอะไร หลังจากนั้นก้อได้ทำงานสรุปต่อผลที่ได้ทั้งหมดของที่ไม่รุ้ เนื่องมาจากไม่รุ้จักเหมือนเดิม คือมี ใบมีดบางอย่างไม่รุ้ และ อุปกรณ์ที่ชื่อว่า โอลิงยางไว้ทำหน้าที่ต่างๆ เช่นกันนำมัน และกันลมสตรีม เหตุผลที่ไม่รุ้คือ แยกไม่ออกว่ามันเปนแบบไหนเอง
26/11/52
งานวันนี้เกิดจากความผิดพลาด จากเมื่อตอนเช้าก่อนผมไปกินข้าวได้ทำการอับเดทวินโด้แล้วเกิดปันหาเมื่อกลับมาทำงาน คือ วินโด้ไม่รันรันมาแล้วเกิดอาการรีสตาร์ไม่เข้าหน้าวินโด้แล้ว ก้อรีตัวเองอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ลงความเห็นกันว่าน่าจำฟอเมตเลยฟอเมตไป พอตกบ่ายก้อไปเซคอ่ะไหล่เหมือนเดิม ส่วนความคืบหน้าวันนี้ น่าจำประมาน 70เปอเซนได้มั้งคับใกล้เสร็จและ
25/11/52
งานในวันนี้เริ่มจากการฟอเมตคอมเป็นอย่างแรก คอมทีผมพิมอยุ่ตอนนี้แหละคับ เหตุผลที่ฟอหรอ ไวรัสเยอะเหลือเกิน เลยตกลงกันกับพี่ที่ห้องว่าจำฟอเมต ฟอเมตตั้งแต่เช้าเลยถึงเที่ยง พอตกบ่ายๆก้อไปทำเซตอะไหล่เหมือนเดิม งานวันี้ความคืบหน้าน่าจะประมาน50-60 เปนเซนได้มั้ง ใกล้เสดและอีกไม่นาน
24/11/52
การทำงานในวันนี้เริ่มต้นด้วยการเข้าไปเซคอะไหล่เหมือนเดิม วันนี้ขอรายงานเป็นความคืบหน้า ความวันนี้เพิ่มมาซักประมาณ 30 เปอเซนเหนจะได้จากตู้ที่เคยแบ่งไว้ 26 วันนีจาได้อยุ่ประมาณ 6ได้ จดไปปวดหัวไป
บางตัวก้อนับบางตัวก้อไม่ได้นับ เนื่องจากเหตุผลเดียว มานเยอะเหลือเกิน ความคืบหน้าไงติดต่อวันพรุ่งนี้อีกที
บางตัวก้อนับบางตัวก้อไม่ได้นับ เนื่องจากเหตุผลเดียว มานเยอะเหลือเกิน ความคืบหน้าไงติดต่อวันพรุ่งนี้อีกที
วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
23/11/52
การทำงานของวันนี้เรื่มต้นจากงานเมื่อวานที่ไม่ได้ทำนั่นเองที่เดิมห้องอะไหล่ เริ่มเซคกันตั้งแต่ช่วงเช้าเลยเซคไปทั้งวัน เซคไปก้อถามช่างไปแบ่งๆกันจดกับพี่ที่ไปด้วยกันอีกคนการจดในครั้งนี้เริ่มจากที่ได้ตั้งเป้าหมายว่าน่าได้วันนี้คิดว่านคิเปนเปอเซนที่ได้น่าจะประมาน 10 เปอเซนของเยอะมากนับไปก้อเหนื่อย งานวันนี้เท่านี้ ติดตามต่อรพุ่งนี้
20/11/52
วันนี้ต้องบอกว่าตอนเช้า ไม่ค่อยมีงานจิงๆ งานส่วยใหย่มาหลังเที่ยง ก้อคืองานเก่าเดิมๆที่เคยทำไปแล้วคือ เช็คไอไหล่ซ่อมเครื่อง ที่เคยทำไปอาทิดที่แล้วนั่นเอง แต่มีการสั่งงานมากขึ้นเริ่มมามีการนับจำนวน รายละเอียดเริ่มมีมากขึ้น เห้อๆๆ ได้ลงไปทำได้ประมาน ช.ม. ก้อมีงานมีอีกคือมีคอมพิวเตอร์ที่อีกโรงงานหนึ่งที่
กิโล 9 มาปันหาผมอก้อไปกับพี่ที่ห้องอีกคน พอไปถึงพี่ที่ไปด้วยกันก้อแก้ไขปันหาเกือบหมด ปันหาทั้งหมดมีดังนี้ 1 โปรแกรมอโคแบทสั่งคลิกแก้ไขไม่ได้
ปกติโปรแกรมที่เราใช้กันนั้นจะอ่านได้อย่างเดียว คือแกไข้ด้วยการลงเวอณืชั่นโปรไป 2แถบโปรแกรมอ้อฟฟิตเป็ภาษาไทยแก้ไขเหมือนกันคือคงเวอร์ชั่นโปรลงไปเหมือนกัน 3 ไมด์เวลาคุยผ่านโปรแกรมสไกด์ไม่ดั้ง ต้องของอธิบาหน่อยหนึ่ง โปรแกรมนี้เหมือนกันเอมเอสเอนแต่ต่างกันตรงที่ว่าโปรแกรมนี้จะเน้นการคุยผ่านกล้องกับไมด์มากกว่าเอมเอสเอท การแก้ไขก้อคือ หาตัวกล้องจากคอมพิวเตอร์โดยตั้งค่าจากตัวควบคุมเสียงของวินโดว์ ให้เลือกว่าช่องสีที่เสียบสายไปตั้งค่าให้เปนไมด์คอนโฟนและ ไปสั่งตัวควยคุมเสียงให้เลือกเสียงที่เข้าเป็นไมด์ อาการสุดท้ายคอมอีกห้อง 1ได้ช้าพร้อมกันหมด โดนได้ลองเชคไวรัสจาอีกเครื่องหนึ่งโดยคอมได้ฟ้องว่าได้มีไวรัสที่เครื่องแม่ที่เปนระบบเอ็กเพส การแก้ปันหาก้อคือลงตัวฆ่าไวรัสเครื่องแม่เพื่อหาไวรัสและได้กัจัดไปทั้งหมด 127 ตัว เยอะใช่น้อย จบการทำงานของวันนี้
กิโล 9 มาปันหาผมอก้อไปกับพี่ที่ห้องอีกคน พอไปถึงพี่ที่ไปด้วยกันก้อแก้ไขปันหาเกือบหมด ปันหาทั้งหมดมีดังนี้ 1 โปรแกรมอโคแบทสั่งคลิกแก้ไขไม่ได้
ปกติโปรแกรมที่เราใช้กันนั้นจะอ่านได้อย่างเดียว คือแกไข้ด้วยการลงเวอณืชั่นโปรไป 2แถบโปรแกรมอ้อฟฟิตเป็ภาษาไทยแก้ไขเหมือนกันคือคงเวอร์ชั่นโปรลงไปเหมือนกัน 3 ไมด์เวลาคุยผ่านโปรแกรมสไกด์ไม่ดั้ง ต้องของอธิบาหน่อยหนึ่ง โปรแกรมนี้เหมือนกันเอมเอสเอนแต่ต่างกันตรงที่ว่าโปรแกรมนี้จะเน้นการคุยผ่านกล้องกับไมด์มากกว่าเอมเอสเอท การแก้ไขก้อคือ หาตัวกล้องจากคอมพิวเตอร์โดยตั้งค่าจากตัวควบคุมเสียงของวินโดว์ ให้เลือกว่าช่องสีที่เสียบสายไปตั้งค่าให้เปนไมด์คอนโฟนและ ไปสั่งตัวควยคุมเสียงให้เลือกเสียงที่เข้าเป็นไมด์ อาการสุดท้ายคอมอีกห้อง 1ได้ช้าพร้อมกันหมด โดนได้ลองเชคไวรัสจาอีกเครื่องหนึ่งโดยคอมได้ฟ้องว่าได้มีไวรัสที่เครื่องแม่ที่เปนระบบเอ็กเพส การแก้ปันหาก้อคือลงตัวฆ่าไวรัสเครื่องแม่เพื่อหาไวรัสและได้กัจัดไปทั้งหมด 127 ตัว เยอะใช่น้อย จบการทำงานของวันนี้
วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
19/11/52
วันนี้มีคนมาติดต่อเรื่องสีที่จำทำชั้นที่ผมทำงานจาทาสีใหม่ มีการปูพืนใหม่ในห้องผุ้จัดการและเจ้าของบริษัท ผมก้อดุสังเกตุการณ์ เค้าไม่นั่งประชุมกันยืนดุไรไปเรื่อยในห้องประชุม ผมไม่แน่ใจว่าจาเอาน้ำมาเสริฟดีมั้ย ผมก้อเลยเข้าไปสอบถามกับพี่ที่เปนหัวหน้าผม ตอนแรกพี่เค้าบอกว่าไม่ต้องแต่พอผมกลับมานั่งมีเขาก้อส่งสัญณาณมาว่าเอามสงสัยพี่เค้าคงเหนว่าไม่น่านำนานเหมือนผมตอนแรกเลยสั่งไม่ต้องเอามา แต่ไปๆมาๆนานก้อเลยสั่งให้เอามา พอตกบ่ายมีประชุมเรื่องงาน ผมก้อนั่งในห้องอยุ่คนเดียว มีโทรสับเข้ามามาก ทั้งโทรสับโรงงาน และมือถือของโรงงานผมเลยต้องรับหน้าที่เปนโอปาเรเตอร์รับโทรสับไป พอเขาประชุมได้สักพักก้อออกมา ผมนึกว่าเสร็จแล้ว ที่ไหนได้กลับไปใหม่ ผมเข้าไปด้วยเนื้อหาคราวนี้เปนการสอนสะส่วยใหย่เหมือนต้องการสอนให้ลูกน้องรู้จักการแก้ปัญหา การคิดต่างๆ มีคำถามา3ข้อ แต่ละข้อเปนคำถามที่ให้แสดงความคิดเห็นครั้งนั้น แต่ก้อดีนะ เปนการสอนอีกแบบ เปนการประชุมที่ขำไปแล้วก้อได้ความคิด และ ความรู้มากไป พอออกมาก้อมีงานหนักมากๆคิดยกตู้ย้ายตู้ไปจัดให้ ถึอว่าหนักมาก หรือว่ามีคนคิดว่าไม่หนักคับ ยกตู้เนี่ย เหอๆ และก้อจบการฝึกงานในวันนี้ไปอย่างเสดสบบรูณ์...........
18/11/52
การทำงานวันนี้สบายๆ งานในวันนี้น้อยมาก แต่ก้อมีอยุ่ในวิชาที่เรียนมาคือการเตรียมห้องประชุม ตอน 11โมงได้มีดทรสับมาจากฝ่ายบุคคลว่ามีคนมีพบกับหัวหน้าผม ผมได้ไปเตรียมห้องประชุมจัดเก้าอี้ให้เป็นระเบียบ เปิดไฟ เปิดแอร์รอ เดินไปจัดโต๊เสร็จ คนที่จะมาพบก้อเดินเข้ามา เปิดไฟเปิดแอร์แล้วก้อไปเชิญเขามานั่ง ตอนแรกผมหวั่นมากกลัวว่าจะทำให้เขาไม่พอใจ เพราะว่าแอร์มาเย็นเช้ามาก เดินไปเดินมาเช็คอยุ่หลายรอบ พอตั้งสติได้คิดถึงตอนจัดสัมมนาก้อคิดได้ ผมก้อเลยเดินไปบอกแม่บ้านให้เตรียมน้ำมาให้ ผมก้อมานั่งดูสถานการณ์ในห้องว่าเปนไงเค้าต้องการไรมั้ย ไม่นานพีที่เปนหัวหน้าก้อเข้ามา สบายผ่านไปด้วยดุ พอบ่าย สถานการณ์เดิมก้อเข้ามา คราวนี้สบายกว่าเดิมเยอะ แต่มามากว่าเดิมอีกหน่อย คือครวนี้มา 4 ตอนแรกมา 1 คราวนี้เปิดห้องจีดเตรียมไว้แล้วพอเข้ามาก้อเปิดประตูให้เดินเข้า คิดดูคับเหมือนยามที่พารากอนอ่ะเปิดประตูให้คนเข้า 5555+ ระหว่างการประชุมผมก้อนั่งสังเกตุการณ์ไปด้วยว่ามีสัญยานความต้องการไรอีกป่าว เหอๆ และพอประชุมเสร็จพี่เค้าก้อออกไปดูงานหมด ทั้งพี่ที่เปนหัวหน้าผม พี่ที่เปนผู้จัดการ และพี่ในห้องผมอีกคนไปดูงานหมด งานเลยไม่มีไรวันนี้ นั่งรอเวลาเลิกงานไป
วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
17/11/52
วันนี้เริ่มมาตอนเช้าก้อสบายและงานหนักได้ผ่านไปด้วยดี แต่ไม่เท่านั้นต้องมาลุ้นความพอใจอีก พอ11โมงสิ่งที่รอคอยก้อมา พี่เค้าเริ่มตรวจการสำรวจ ตรวจไปก้อพร้อมบอกว่า"พี่ว่าไอเนี่มีนะ"เป็นระยะๆ พี่เค้าก้อเซคไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเค้าบอกขึ้นมาว่าเดี๋ยวจาลงไปดุด้วย เห้อๆ งานเดิมาใหม่อีกแล้ว ระหว่าง พี่เค้าเซคพี่เข้าผมก้ออธิบายไปเรื่อยๆ ว่าบางตัวทามไมไม่เจอเลย พี่เขาก้ออธิบายไปเรื่อยๆแต่ละตัวผมก้อรุ้สึกว่าคุ้นๆว่าเจอแต่คืดประเด็นหลักที่จดมาไม่เจอคือ ไม่รู้จักนั่นเอง บางตัวก้อจดรหัสมา บางตัวก้อชื่อ บางตัวก้อเลขที่ฝ่ายบัญชีรันมา ผมก้อนั่งไปเรื่อยๆรอฟังว่าจาให้ไปจดเมื่อไร และแล้วก้อไม่มีการจดเกิดขึ้น เพราะเนื่องจากมีคนมาสัมพาทงานหลายคนมากพี่ที่เปนหัวหน้าก้อไปนั่งสัมพาทให้ สรุป งานวันนี้ก้อไม่ค่อยมีไรมากนอกว่าฟังงานที่พี่เค้าอธิบายอะไหล่ให้ฟังบางตัวที่ไม่รุ้จัก พอ5 โมงก้อมีฝนกับเกิดขึ้น ตอนแรกก้อตกใจอยุ่ แต่ก้อดับไปอยุ่ 10 วินาที แค่10วิเกิดเหตุวุ่วานเกิดขึ้นก้อมีการวอบอกว่าใช้ช่างไปดุ พอไฟมาก้อเหมือนจาไม่มีอะไร แต่ที่ไหนได้มีคนโทรมาหาหัวหน้าผมที่ห้องว่าเปิดคอมไม่ติด พอดีหัวหน้าไม่อยุ่ ผมก้อเลยไปดูเอง ตอนไปลองเชคดุว่าพาวเวอร์ซับพายเสียหรือป่าว ตอนแรกลองดูก้อไม่ติด ลองถอดสายเสียใหม่ก้อไม่ติด ลองไปลองมาประมาน 2รอบก้อติด โล่งใจที่พาวเวอร์ซัพพายไม่เสีย ไม่งั้นหนักเลย
วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
เริ่มงานอาทิดที่สอง
โอ้ไปๆมาผ่านไป 1อาทิดและ ไวมากๆ เริ่มงานวันนี้ด้วยความหนัก หลังจากที่อาทิดที่แล้วได้ไปสำรวจอะไหล่ของแนกช่างมาทั้งหมดก้อถึงเวลาที่ต้องมานั่งสรุปส่งซักที วันนี้เปนวันแรกที่ต้องบอกว่างานเข้ามาตั้งแต่เช้า เข้างานก้อมีงานเลย เห้อเริ่มจากที่รวมรวมข้อมูงทั้งหมดที่ได้จดมาแยกเป็นฟายต่างหาก คือสร้า
ไฟลืใหม่มานั่นเอง ครั้งนี้ผมได้วางแผนไว้ว่าจาแยกเป็นแต่ละประเภทน้อตอยุ่กับน้อต ปัจแจไขควงอยุ่ด้วยกัน โดนได้มีการสร้างหน้าแรกขั้นมาเปนหน้าทื่สามารถลิ้งค์ไปหาแต่ละแทคได้ การทำครั้งนี้ต้องขอขอบคุณที่ส่องเอ็กเซลจิงๆ นำมาใช้ทั้งหมดเลยไม่ว่าจาเปนการรวมยอด การนับจำนวน และการคิดเปนเปอเซน รวมถึงการทามลิ้งต่างๆ เรียกว่าใช้ครบเลบที่ได้สอนมา แต่ฟังก์ชั่นที่ได้ ก้อมีแค่ sum,couthและบวกลบคูณหาร ซึ่งง่ายกว่าที่ได้เรียนเยอะ ฟังดูเหมือนจาง่ายนะครับ แต่ที่จิงแล้ว มานไม่ง่ายนั้งเซคไปตาลายไปอีก เหอๆๆ ปวดตามากๆ งานนนี้ทามทั้งวัน จนเกือบช.ม.สุดท้ายที่เลิกงานเสดพอดี พอดีก้อได้ส่งงานให้หัวหน้าดูทันที พี่เค้าก้อบอกแค่ว่าจะเชคให้พรุ่งนี้ เหอๆ ลุ้นอีกทีว่าความพอใจจาเปนไง ติดตามต่อพรุ่งนี้
ไฟลืใหม่มานั่นเอง ครั้งนี้ผมได้วางแผนไว้ว่าจาแยกเป็นแต่ละประเภทน้อตอยุ่กับน้อต ปัจแจไขควงอยุ่ด้วยกัน โดนได้มีการสร้างหน้าแรกขั้นมาเปนหน้าทื่สามารถลิ้งค์ไปหาแต่ละแทคได้ การทำครั้งนี้ต้องขอขอบคุณที่ส่องเอ็กเซลจิงๆ นำมาใช้ทั้งหมดเลยไม่ว่าจาเปนการรวมยอด การนับจำนวน และการคิดเปนเปอเซน รวมถึงการทามลิ้งต่างๆ เรียกว่าใช้ครบเลบที่ได้สอนมา แต่ฟังก์ชั่นที่ได้ ก้อมีแค่ sum,couthและบวกลบคูณหาร ซึ่งง่ายกว่าที่ได้เรียนเยอะ ฟังดูเหมือนจาง่ายนะครับ แต่ที่จิงแล้ว มานไม่ง่ายนั้งเซคไปตาลายไปอีก เหอๆๆ ปวดตามากๆ งานนนี้ทามทั้งวัน จนเกือบช.ม.สุดท้ายที่เลิกงานเสดพอดี พอดีก้อได้ส่งงานให้หัวหน้าดูทันที พี่เค้าก้อบอกแค่ว่าจะเชคให้พรุ่งนี้ เหอๆ ลุ้นอีกทีว่าความพอใจจาเปนไง ติดตามต่อพรุ่งนี้
วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
วันสุดท้ายของอาทิดแรก
วันนี้มีการเริ่มงานต่อจากเมื่อวานคือไปจดข้อมูล จดไปจดถึงเที่ยงงามรวมรวมข้อมูลก้อเสร็จลง พอหลังจากเที่ยงก้อนำข้อมลูที่ได้มาตวรจสอบว่ามีข้อมูลตรงกันหรือไม่ที่ได้ขากฝ่ายบัญชี ข้อมูลที่ได้มีฟันหา 4 แบบคือ ข้อมูลที่จดมาไม่มีในข้อมูลของฝ่ายบัญชี เนื่องมาจาเหตุผลที่ว่าของประเภทนี้สั่งมาแล้วจะนำไปใช้เลยเลยไม่มีในสโตว์อะไหล่ แบบที่สองคือ มี ในที่จดมาแต่ไม่มีในฝ่ายบัญชี เนื่องมากจาเหตุผล มีการนำอะไหล่มาฝากไว้ในคลังจึงทามให้ข้อมูลนี้ไม่มีในฝ่ายบัญชี แบบที่ 3 คือของเหล่านี้เมื่อใช้แล้วสมารถนำมาใช้ใหม่ได้ เช่นจานใบมีด ใช้ไปแล้วก้อจะเกิดความไม่คและแกนอาจจะเสีย เมื่อมีการ ทามแกนดีๆ และลับเกิดขึ้นจิงสมารถนำใบมีดมาใช้ไหม่ได้ และแบบสุดท้ายคือ ของที่ซื้อมา เมื่อนำไปใช้จิงแล้ว คือใช้ไม่หมด คือ เช่น สายลมเมื่อมีการสั่งซื้อมาก้อจะมีการนำแต่สายมาใช้สายตัวก้อจะไม่ใช้เกบไว้อะไหล่ครั้งต่อไป ส่วนนี้ข้อมูลก้อไม่มีในผ่านบัญชี งานทั้งหมดนี้ผมจะนข้อมูลไปทำต่อที่บ้านแยกเปนไฟล์เอ็กเซลเปนหมวดหมู่ให้เรียบร้อย แล้วจำจำเป็นตัวอย่างมาใหม่พี่ที่เปนหัวหน้าดูอีกทีดู
วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
12/11/52
งานวันนี้งานแรกเริ่มตั้งแต่ การเข้าไปเซตอะไหล่เหมือนเดิม วันนี้ไม่เหมือนเมื่อวาน คือเริ่มการจดแล้ว จดไปก้อไม่มากจากเดิม 26 ตู้วันนี้ 2คนจดรวมกันไปซักประมาน 6ตู้ได้มั้ง คับ แต่วันนี้โชคดีหน่อยมีช่าง มาช่วยบอกว่าอะไรคืออ่ะไร ไม่ง้นเรา 2คนคงไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร แค่งานก้อล้าช้า เพราะว่าช่างที่บอกก้อแค่คนเดียว บอกได้ที่ละคน งานนี้ทามไปถึงบ่ายได้ พอบ่ายสอง ก้อมีพี่ที่อยุ่ลคงัในการเด็บสินค้าที่บริษัท เข้ามาบอกว่าคอมมีปันหาแฮงค์บ่อย ก้อเลยสรุปกันว่าจานำเคทไปเปลี่ยนให้ ไปเปลี่ยนให้ ในการไปเปลี่ยนให้ก้อมีการฟอเมตเครื่องให้ แต่ความสบายอยุ่ที่แผ่นที่นำไปลง มานเปนแบบฮออรืไดว์เวอร์ ไม่ต้องเสียเวลลาในการหาไดว์เวอร์ แต่ก้อต้องหาอยุ่ดี ยังขาดปลิ้นเตอร์ วางแผนไว้ว่าพรุ่งนี้จานำไปลงให้ แล้วยังขาดแลนอินเตอร์เนตอีก ก้อคงจาเปนพรุ่งนี้เหมือนกัน 4โมงก้อกกับมาที่ห้องหาไดว์เวอร์ ไปลงในวันพรุ่งนี้.....
วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
11/11/52
วันนี้ตั้งแต่เช้ามาก้อมีงานเลย งานเมื่อวานแหละคับเซคอะไหล่ที่ห้องสโตว์ของช่าง งานวันนี้วางแผนไว้ว่าจาจดให้เสดในวันนี้และ วันพรุ่งนี้จาทามเปนเอกสาร พอวันศุกจาลองเขียนโปรแกรมขึ้นมา แต่แผนทั้งหมดน่าจำล้มพอไปดุจิงลองปนกันมั่วมากๆๆ ทั้งของใช้แล้ว ของที่สั่งมาแล้วใช้เลยก้อมี แต่ฝบที่ทางฝ่ายบัญชีให้มากลับมีข้อมลูของทั้งหมดที่ทางบริษัทเสียเงินซื้อไป ผมกับพี่ที่ไปทามด้วยกันเลยช่วยกันจัด ทั้งวันเลย เอาของ แต่ละประเภทมารวมกันแยก จับสปริงมอยุ่ด้วยกัน จับ ลวดมาอยุ่ด้วยกันประมานนี้ แต่ความด้วยโชคดีอยุ่ด้วยเนื่องจากน้อตได้แยกกันเปนมุมของมันแล้ว แต่ถ้าเกิดไม่แยกกันบอกได้คำเดียวเหนื่อยแน่ๆ กว่าจะจัดของเสด ก้อไปแล้ว4โมงเย็น ก้อขั้นไปที่ห้องประจำอยุ่ นั่งพักผ่อนพร้อมกับรายงานหัวหน้ารุ้ว่าทามไรไปแล้วบ้าง ตอนแรกพี่เข้าก้อตกใจว่าพวกผมทามไรกัน ออกแนวเหมือนกับว่าผมไม่ทำตามคำสั่ง แต่พอพี่ที่ไปทำด้วยกันอธิบายพี่เค้าก้อเข้าใจ ว่าของมานไม่เปนระเบียบเลบต้องทำเยอะ ผมกับพี่ก้อเลยวางแปนกันใหม่ว่าจะจดมาพรุ่งนี้แล้วก้อไปเอารหัสที่ผ่ายบัญชีรันไว้เวลาสั่งของเข้ามา ใส่ให้ตรงกับที่จดมา พอเสดแล้วก้อเปนเอกสารต่อไป แล้วตามที่พี่ที่เป็นหัวหน้าสั่งไว้ว่าต้องการรุ้ว่าของนี้สมารถเกบสต้อกไว้ได้เท่าไร งานนี้ยังอีกมาก ขนาดพี่ที่มาทามกับผมเค้าเคยทามการเกบสกีนไว้เค้ยังบอกว่าทามเปนเดือนเลย งานนี้ควต้องยืดออกไปเลยวันศุกแน่ๆ ความคืบหน้าของงานนี้ต้องดูเรื่อยๆ ยังไงความคืบหน้าจามีมาอธิบายทุกวันแน่ๆ
วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
10/11/52
ทำงานวันที่ 2 วัน วันนี้ช่าวเช้าก้อไม่ได้ทำอะไร พอตก 10โมง พี่ที่สอนงานก้อ พอไปนั่งฟังงาน งานที่พังเป็นงานเกี่ยวกับเครื่องกลเปนส่วนใหย่ มีการคุยกันเรื่อง การซ่อมเครื่องจักร มีการต่อรองกันว่าจาทามการซ่อมดีหรือจาซื้อใหม่ โดยวันนี้คนที่อยุ่ก้อจะมีผม พี่ที่พาผมไปฟังงาน วิศวกรที่รุ้เรื่อง แล้วก้อลูกค้า เค้าคุยกันอยุ่ 3 คนโดนที่ผมไม่ได้ณุ้เรื่องไรเลยจิงๆ แต่พอผมถามพี่พี่เค้าก้อบอกว่าเปนส่วนหนึ่งของงานที่ผมควรมรุ้ ผมก้อไม่ได้คิดไรมากถทอว่าเปนความรู้ใหม่ไปแล้วกัน หลังจากฟังคนแรก คนที่ 2ก้อมา ความนี้เปนผุ้หยิงครราวนี้ผมได้คุย เรื่องที่คุยก้อไม่ช่ายเกี่ยวกับงานเลยเปนเรื่อง เกียวกับผมทั้งนั้น คุยค่าเวลาไป รอให้พี่ที่มาด้วยกัน คุยกับลูกค้าอีกคนให้เสดก่อน พอเสดคนแรกก้อเข้ามาคุยต่ออีกคน คราวนี้เทอคนนี้มาพร้อมเรื่อง การบำรุงรักษาเครื่อง ง่ายๆคือเหมือนกับถ่ายน้ำมันเครื่องรถแหละคับ พอครบกำหนดก้อต้องทาม คุยไปคุยมาก้อาดพอดี พร้อมกับอาการงงของผมว่ามานคือไรหว้าที่เราไปฟัง ความรุ้เหมือนกับพึ่งเข้าเรียนใหม่เลย แล้วก้อมานั่งระหว่างนั่งผมก้อไม่ได้ทามไร แต่ไม่ได้ว่างนะคับ อยุ่หน้าคอมทั้งทีต้องทามไรบ้าง ผมไปโหลดโปรแกรม flash มาลองเล่นครังแรก ก้อเล่นๆไปแบบไม่เปนนั่นแหละ เล่นไปเรื่อยๆ ยัน บ่ายสองโมง ความนี้งานรุ้เรื่องมาและ พี่เขาให้ไปเซคของอะไหล่ในสโตว์ห้องช่างที่เอามาซ่อมเครื่องๆกับพี่ในห้องอีกคน พี่บอกว่าวันศุกร์ต้องให้เสด ผมคิดในใจง่ายๆๆ คิดดุอะไหล่จามีไร บ้าง น้อต สปริง ยาง ไรพวกนี้ เดินไปด้วยความสบายใจมานง่ายแบบนี้ทามไมต้องทาม 2 คนด้วย สบายและ พอไปถึงห้องก้อยังสบายใจอบุ่ห้องเล้กๆเล็กกว่าห้องที่เรียนอีก พอเดินเข้าไปเท่านั้นแหละ โห เฉพาะน้อต มีประมานเกือบร้อยได้ สปริงอีก เปนสิบ โห่ๆ ผมคิดในใจดึและที่ทาม 2 คน ถ้าคนเดียวตายๆแนะๆๆ คิดดุคับเยอะไม่เยอะ มีรหัสทุกอัน แยกดีมาก มีชั้นทั้งหมด ก้อ 24 ชั้น แต่ละชั้นก้อมีหลายล็อค แต่และล็อตก้อมีของหลายอย่างและ นี่ยังไม่รวมวางกองไว้ที่ผื้นอีก บอกได้คำเดียว อย่างเยอะ เข้าไปตั้งนานทามได้แค่ติดป้ายบอกเท่านั้นเองว่ามีกี่ชั้น กับ มาไม่บอกนั้นพีที่เปนหัวหน้ายังบอกอีกว่าให้ลองเขียนโปรแกรมไรมาหน่อยที่จำทำให้เรียกดูข้อมูลได้ง่ายๆ แล้วเกบข้อมูลได้อีก ถ้าทามไม่ได้ก้อทามเปนเอ็กซ์เซลล์มา ของแบบนี้ไม่ลองไม่รุ้ ผมจาลองเอาวีบีไปใช้ดีได้ก้อดีไม่ได้ก้อทามแบบหลังให้พี่เขาไป เปนงานที่ท้าทายมากๆ เหมือนกับทดสอบความรุ้ ผมกลับบ้านมาต้องมานั่งรื้อฟื้นอีก เหอๆๆ ไมได้งานนี้มีลืมๆแน่ๆๆ ถ้าไม่ได้ยังไงก้อได้ทบทวนสิ่งที่เรียนมา ยังไงงานนี้ก้อมีเหลืออีก 3 วัน จิงปะคับ ฟังดุเหมือนจาเยอะ ทามจิงๆผมว่อาทิดไม่รุ้พอป่าว ไหนจาต้องไปเอาข้อมูลจากฝ่ายบัญซีมาอีก มาลงข้อมูลว่ามีของไหลเท่าไร เวลาใช้งานจาได้ รุ้ว่าของเหลือเท่าไร อะไหล่ขาดไหม .......ยังไงงานนี้ยังอีกนาวไกลหนัก พรุ่งนี้หนักแน่ๆๆ แต่ก้อสุปไปทาเคซิๆๆ
to be continus .............
วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
ทามงานวันแรก
เริ่มงานมาก้อ 8โมง สบายๆๆ ขึ้นมาก้อไม่ได้ทามอะไร คุยกับพี่ที่ห้องแล้วก้อดูเวปไซด์ไปเรื่อยๆ พอถึง 9 โมงกว่าๆงานชิ้นแรกก้อมา ให้หาที่ต้องต่อกรัทรวงแรงงาน หาไปอยุ่ 10นาที ก้อเจอ พอ10โมงก้อเข้าไปคุยกับผู้จัดการดูบ้างว่ามีอะไร งานชิ้นที่ 2ก้อตามมาติดๆ ให้หาโปรแกรมที่ส่ง sms ฟรี! ไปยังมือถือ ไวเหมือนไม่น่าเชื่อไม่ถึง10นาทีก้อหาเจอ แต่ใช้ไม่ได้ ลองดูต่อไปก้อเจออีก แต่ใช้ไม่ได้ไดเหมือนกัน นั่งปวดหัวอยุ่นาน ก้อเจออีกโปรแกรมในเวปบอกใช้ได้ ความหวังเริ่มมี พอเอามาให้เอง ก้อลงทะเบียนไม่ได้ นั่งงมกับมันอยุ่นาน แล้วก้อพักเที่ยง ตอน 12.30 กลับมาหาอีกบ่ายโมง นั่งไปก้อเจอใหม่ๆเรื่อยๆ แต่ก้อเปนปันหาแบบอย่างหลังสุดคือ ไม่สามารถสมัครมันได้ นั่งหาวิธีสมัคร จนบ่าย 3โมง ก้อเริ่มรู้ว่าทามไมใช้ไม่ได ปรากฎว่า รหัสของโปรแกรมนี้ต้องโทรไปสมัคเองแล้วเขาจาส่ง sms มายังมือถือ เห้อ! แล้วพรุ่งนี้จาบอกไงดีเนี่ยๆ เห้อๆ ลืมเล่าไปงานชิ้นที่ 3 นี้มาตอน บาย 2ครึ่ง พี่ที่เปนหัวหน้าให้ทามยังก้อได้ให้คนไปดู วีดีโอโปรโมตของโรงงานของเรา เรา ไงก้อฟากด้วยและกัน http://www.youtube.com/watch?v=KNsgIG0CbmM ดูกันเยอะๆคับ
มาหาหลายๆวิธีที่ทามให้คนมาดุเยอะๆอีกที เห้อๆๆ และก้อหาเวปไซด์โปรโมคมากขึ้นพึ่งให้คนรู้จักมาขึ้นเหอๆ งานนี้จาเป็นอย่างไรดูกันนานๆรับ รับรองคนรู้จักเยอะแน่ๆ
มาหาหลายๆวิธีที่ทามให้คนมาดุเยอะๆอีกที เห้อๆๆ และก้อหาเวปไซด์โปรโมคมากขึ้นพึ่งให้คนรู้จักมาขึ้นเหอๆ งานนี้จาเป็นอย่างไรดูกันนานๆรับ รับรองคนรู้จักเยอะแน่ๆ
จบงานวันนี้ต่อพรุ่งนี้อีกที...........
วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2552
12 ข้อคิด เพื่อชีวิตที่ดีของการทำงาน
1. มนุษย์สัมพันธ์: ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เพื่อนๆที่ทำงานไม่ชอบ ไม่อยากคุยด้วย หรือ เข้ากับเพื่อนในที่ทำงานไม่ได้เลย คงต้องถึงเวลาพิจารณา และ ปรับปรุง ทักษะด้านสัมพันธ์กันเร่งด่วนแล้วละคะ อย่ามัวแต่หลอกตัวเองว่า เราดีแล้ว เป็นไปไม่ได้หรอกเพราะถ้าเราดีจริงแล้วเราจะไม่มีเพื่อนเอาเลยหรือคะ มนุษย์สัมพันธ์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก คุณไม่มีทางประสบความสำเร็จได้ ถ้ามนุษย์สัมพันธ์คุณแย่มากๆ ต่อให้คุณเก่งแค่ไหนก็ตาม มนุษย์เป็นสัตว์สังคม และ แน่นอนคุณเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องติดต่อกับคนอื่น
และถ้าคนในองค์กรคุณยังไม่สามารถทำได้ดี ก็คงลำบากถ้าจะให้หัวหน้าคุณเห็นว่า คุณจะสามารถทำได้ดีกับคนภายนอกองค์กร เพราะฉะนั้น เรามาสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนๆ ในองค์กรกันก่อนดีกว่านะคะ
2. ทีม: คุณทำงานเป็นทีมได้หรือเปล่า เคยสังเกตตัวเองไหมคะว่า คุณทำงานเป็นทีมได้ดีแค่ไหน หรือว่า ต้องทำงานคนเดียวถึงจะดี?
ในอนาคต การทำงานจะเน้นบุคคลที่ทำงานเป็นทีมได้ดีมากกว่าคนที่ชอบทำงานคนเดียว คุณทราบหรือไม่ว่า ในขณะนี้ทุกมหาวิทยาลัยในอเมริกา มีคอร์สฝึกสอนการทำงานเป็นทีมเพื่อรองรับความต้องการตลาดแรงงานในอนาคต ทำไมต้องเน้นเป็นทีมนะหรือคะ? ก็ต่อไปโลกเราก็จะแคบลงเพราะการพัฒนาในด้านต่างๆมีมากขึ้น การทำงานก็ต้องเป็นทีมมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นผู้มีทักษะในการทำงานเป็นทีม และ เป็นผู้ร่วมทีมที่ดีจะเป็นข้อจำเป็นในการทำงานทุกที่
3. Committed: หรือ ข้อตกลงในการทำงานระหว่างคุณกันคนอื่นๆไงคะ นึกไว้เสมอเลยนะคะว่า อะไรที่คุณรับปากกับใครก็แล้วแต่ คุณต้องรับผิดชอบ และ ทำให้ได้ตามที่รับปาก ถ้าไม่ได้ หรือว่าล่าช้ากว่าที่เรารับปาก คุณต้องแจ้งล่วงหน้าให้แก่บุคคลที่คุณรับปากอย่างน้อยสองหรือสามวัน อันนี้เป็นมารยาททางการทำงานที่ดี เพราะฉะนั้นก่อนที่คุณจะรับปากใครในเรื่องของการทำงาน คิดให้รอบคอบก่อนนะคะ
4. ฉันเป็นฉันเอง: ประเภทสาวมั่น หนุ่มมั่น ที่เราอาจจะเห็นจากทีวี หรือ ภาพยนตร์ ถ้าจะนำมาใช้คุณต้องดูเวลา และ สถานที่ให้ดีก่อนนะคะ ไม่งั้นแทนที่จะช่วยเสริมให้คุณดูดี มีภาพพจน์ กลับจะทำลายอนาคต ทางการทำงานของคุณไปเลย หลักการที่ดี ก็คือ ดูบุคคลที่เราติดต่อด้วย และ จะมั่นใจอะไร ก็ควรกระทำอย่างพอดี และเราจะเป็นที่ชื่นชมว่าเป็นคนมีมารยาท และประสบความสำเร็จในการติดต่อทางธุรกิจ
ในความเป็นจริงการติดต่อธุรกิจ คุณไม่สมควรใช้เหตุผลของสาวมั่นหรือหนุ่มมั่นมาใช้มากกว่าการเป็นคนเรียบร้อยมีมารยาท เพราะฉะนั้นข้อนี้ต้องระวังให้ดีนะคะ ใช้ให้ถูกที่ และ ถูกเวลา
5. ขออยู่เงียบๆคนเดียว: ข้อนี้สำคัญมาก อย่าพยายามทำตัวไม่แคร์ใคร ไม่รู้จักใคร เพราะสุดท้ายคุณจะเวียนไปหัวข้อแรก และ แน่นอน คุณจะเป็นคนแรกที่ทุกคนลืม อย่าเป็นคนที่เครียดง่าย สนุกยาก ใครๆเข้าหายาก คงจะดีกว่า ถ้าคุณจะทำตัวเป็นคนที่ยิ้มง่าย และ เป็นมิตรกับทุกคน เวลาเศร้า เก็บไว้กับคนสนิท และรู้ใจดีกว่านะคะ
6. ธุระส่วนตัว: ธุระทุกประเภทที่เป็นส่วนตัวของคุณ คุณอย่าใช้เวลาทำงานมาทำเป็นอันขาดเชียวนะคะ จำไว้เลยนะคะ เบอร์โทรศัพท์เอาไว้ให้เฉพาะลูกค้าที่จะโทรติดต่อเรื่องงาน อย่าให้เบอร์ที่ทำงานกับเพื่อนหรือแฟน แล้วก็คุยกันนอกเรื่องกันเป็นวันๆ รับรองได้ว่า อนาคตทางการงานของคุณคงจะไม่รุ่งแน่นอน เพื่อให้ประสบความสำเร็จทางการทำงานบางท่านถึงกับตั้งกฎไว้กับตัวเองเลยก็มีว่า ในชั่วโมงการทำงาน เขาจะไม่ทำอะไรที่ไม่ใช่งาน เช่น ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ ไม่คุยโทรศัพท์ส่วนตัว ไม่ไปธนาคาร สำหรับธุระส่วนตัวก็จะใช้เวลาที่ไม่ใช่เวลางานเท่านั้น
7. ความรัก: ไม่ได้เด็ดขาดสำหรับความคิดที่จะมีความรักในที่ทำงานเดียวกัน จริงๆคุณก็ทำได้ แต่รับรองได้ว่า มันจะทำลายอนาคตการทำงานของคุณ เพราะทุกคนจะมองเหมือนจับผิดว่าคุณใช้เวลาในการทำงาน มาสร้างตำนานรักมากกว่า อย่าเสี่ยงจะดีกว่านะคะ
8. เป้าหมาย: เป้าหมาย และ เป้าหมาย เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับเจ้านายของคุณ ถ้าคุณทำงานแบบมีเป้าหมายว่า งานแต่ละอย่างที่อยู่ในความรับผิดชอบของคุณมีแผนการเสร็จเมื่อไหร่ คุณมีเป้าหมายในการทำงานอย่างไรให้ประสบความสำเร็จตามที่หัวหน้า หรือ บริษัทตั้งเป้า ถึงคุณจะทำไม่ได้จริง [แต่คุณต้องพยายามเต็มที่แล้วนะ] รับรองได้ว่า หัวหน้าคุณคงมองคุณแบบไม่ธรรมดา และจะเป็นโอกาสที่ดีของคุณในการทำตัวให้น่าเชื่อถือ แต่ระวังอย่าใช้เป้าหมายมาพูดและทำไม่เคยได้เลย เพราะจะกลายเป็นการคุยอวดมากกว่า
9. บุคลิก: สุภาษิตที่ว่า ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ยังคงใช้ได้ดีเสมอ บุคลิก และ การแต่งกาย เป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่จะช่วยกำหนดความสำเร็จทางการทำงานของคุณ อย่าพยายามแต่งกายมากเกินไป หรือ น้อยเกินไป และที่สำคัญ อย่าแต่งกาย แบบที่ไม่ใช่คุณ คุณอาจจะเห็นดารา นางแบบ ใส่เสื้อตัวหนึ่งสวย แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะสวยเหมือนนางแบบถ้าคุณเอามาใส่ การแต่งกายที่ดี สำหรับการทำงาน ก็คือ สุภาพ และ โชว์บุคลิกเฉพาะของคุณออกมา
ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่า แต่งกายแบบไหนเหมาะกับคุณ ขอแนะนำให้ถามคนที่คุณสนิท และจริงใจกับคุณ คุณก็จะได้แนวการแต่งกายที่เหมาะกับคุณ หรือถ้ามีตังค์ก็อยากแนะนำให้หาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ แต่ก็ต้องระวังนะคะ หลายสถาบันสอนบุคลิกภาพ ชอบสอนให้แต่งตัวแบบเหมือนๆกันหมด จนบังความมีเสน่ห์ของคุณไปเลยก็ได้ ดีไม่ดีกลายเป็นหุ่นยนต์รุ่นต่างๆที่เราเห็นก็ทราบทันทีว่าไปเข้าสถาบันสอนบุคลิกภาพที่ไหนมา ทางที่ดีต้องปรึกษาหลายคนๆก่อนตัดสินใจนะคะ
10. หัวหน้า: หัวหน้าก็คือหัวหน้า อันนี้คุณต้องระวังอย่างมาก อย่าทำตัวสนิทกับหัวหน้า จนคุณเผลอ ทำตัวไม่เคารพ หรือ เผลอเล่นจนเกินงาม สำหรับหัวหน้า สิ่งที่ดีและ เป็นประโยชน์กับคุณมากที่สุด ก็คือ การให้เกียรติ และ แน่นอน ทุกครั้งที่คุณอยู่กับหัวหน้า หน้าที่หลักของคุณคือ การทำให้หัวหน้าของคุณ ดูดี อยู่เสมอในสายตาผู้อื่น จะด้วยคำพูด การกระทำ คุณก็ไม่มีสิทธ์ทำให้หัวหน้าของคุณกลายเป็นตัวตลก เสียหน้า หรือ ดูไม่ดีในสายตาคนอื่น โดยเด็ดขาด
11. นินทา: อย่าได้เผลอตัวไปอยู่ในกลุ่มของการนินทาใดๆในที่ทำงานโดยเด็ดขาด เพราะสุดท้ายคุณจะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด หรือดีไม่ดี กลายเป็นผู้เริ่มการนินทา โดยคุณไม่ได้ทำ ถ้าคุณต้องเจอภาวะการณ์คุยแบบไม่ได้ประโยชน์ หรือ การนินทาขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทางออกที่ดีของคุณก็คือ อย่าพูดเห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วย โดยเด็ดขาด คุณทำได้แค่ นั่งฟัง โดยไม่ออกความคิด ให้บอกว่าไม่แน่ใจ หรือ ไม่รู้ หรือขอตัวออกจากวงสนทนา อ้างว่าไปห้องน้ำหรือมีธุระต้องทำ ที่นี้คุณก็ไม่เสียเพื่อน และ ก็ไม่เสียงานอีกต่างหาก
12. สร้างสรรค์: หัวใจของความสำเร็จทางการทำงาน คือ ความคิดสร้างสรรค์ อย่าพยายามเป็นคน ใครว่าอะไร ฉันก็เห็นด้วยไปเสียทุกอย่าง คุณไม่จำเป็นต้องเถียง หรือ โต้แย้ง ถ้าคุณยังไม่มีข้อมูล หรือ ยังไม่กล้าพูด แต่ คุณต้องพยายามฝึกสมองของคุณให้คิดในแบบของคุณอยู่เสมอ ทุกการทำงานของคุณ คุณต้องพยายามคิดว่า คุณจะทำอะไรเพิ่มเติมให้งานที่ทำอยู่ปัจจุบัน ดีขึ้น สะดวกขึ้นกว่าเดิมได้ไหม หลักของการเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ง่ายๆ ก็คือ กล้าคิด คิดให้บ่อย คิดให้มาก และคุณก็จะเป็นคนคิดสร้างสรรค์
ทั้งหมด 12 ข้อ เป็นสิ่งที่เราจะต้องระลึกอยู่เสมอในการทำงาน เพื่อส่งเสริมการทำงานของเราให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ที่นี้เราก็สามารถมั่นใจได้ว่า นอกจากเราจะเก่งงานที่รับผิดชอบ เรายังเก่งในการเป็นเพื่อน และ ผู้ทำงานที่ดีขององค์กรด้วย
เป็นบทความที่ดีมากอีกบทความหนึ่ง ก็ขอฝากไว้ให้กับคนทำงานทุกคน แต่สำหรับคนที่ยังไม่ทำงาน ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้นะคะ
สร้างมนุษยสัมพันธ์ สร้างความคิดที่ดี ชีวิตการทำงานก็จะเป็นสุข
และถ้าคนในองค์กรคุณยังไม่สามารถทำได้ดี ก็คงลำบากถ้าจะให้หัวหน้าคุณเห็นว่า คุณจะสามารถทำได้ดีกับคนภายนอกองค์กร เพราะฉะนั้น เรามาสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนๆ ในองค์กรกันก่อนดีกว่านะคะ
2. ทีม: คุณทำงานเป็นทีมได้หรือเปล่า เคยสังเกตตัวเองไหมคะว่า คุณทำงานเป็นทีมได้ดีแค่ไหน หรือว่า ต้องทำงานคนเดียวถึงจะดี?
ในอนาคต การทำงานจะเน้นบุคคลที่ทำงานเป็นทีมได้ดีมากกว่าคนที่ชอบทำงานคนเดียว คุณทราบหรือไม่ว่า ในขณะนี้ทุกมหาวิทยาลัยในอเมริกา มีคอร์สฝึกสอนการทำงานเป็นทีมเพื่อรองรับความต้องการตลาดแรงงานในอนาคต ทำไมต้องเน้นเป็นทีมนะหรือคะ? ก็ต่อไปโลกเราก็จะแคบลงเพราะการพัฒนาในด้านต่างๆมีมากขึ้น การทำงานก็ต้องเป็นทีมมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นผู้มีทักษะในการทำงานเป็นทีม และ เป็นผู้ร่วมทีมที่ดีจะเป็นข้อจำเป็นในการทำงานทุกที่
3. Committed: หรือ ข้อตกลงในการทำงานระหว่างคุณกันคนอื่นๆไงคะ นึกไว้เสมอเลยนะคะว่า อะไรที่คุณรับปากกับใครก็แล้วแต่ คุณต้องรับผิดชอบ และ ทำให้ได้ตามที่รับปาก ถ้าไม่ได้ หรือว่าล่าช้ากว่าที่เรารับปาก คุณต้องแจ้งล่วงหน้าให้แก่บุคคลที่คุณรับปากอย่างน้อยสองหรือสามวัน อันนี้เป็นมารยาททางการทำงานที่ดี เพราะฉะนั้นก่อนที่คุณจะรับปากใครในเรื่องของการทำงาน คิดให้รอบคอบก่อนนะคะ
4. ฉันเป็นฉันเอง: ประเภทสาวมั่น หนุ่มมั่น ที่เราอาจจะเห็นจากทีวี หรือ ภาพยนตร์ ถ้าจะนำมาใช้คุณต้องดูเวลา และ สถานที่ให้ดีก่อนนะคะ ไม่งั้นแทนที่จะช่วยเสริมให้คุณดูดี มีภาพพจน์ กลับจะทำลายอนาคต ทางการทำงานของคุณไปเลย หลักการที่ดี ก็คือ ดูบุคคลที่เราติดต่อด้วย และ จะมั่นใจอะไร ก็ควรกระทำอย่างพอดี และเราจะเป็นที่ชื่นชมว่าเป็นคนมีมารยาท และประสบความสำเร็จในการติดต่อทางธุรกิจ
ในความเป็นจริงการติดต่อธุรกิจ คุณไม่สมควรใช้เหตุผลของสาวมั่นหรือหนุ่มมั่นมาใช้มากกว่าการเป็นคนเรียบร้อยมีมารยาท เพราะฉะนั้นข้อนี้ต้องระวังให้ดีนะคะ ใช้ให้ถูกที่ และ ถูกเวลา
5. ขออยู่เงียบๆคนเดียว: ข้อนี้สำคัญมาก อย่าพยายามทำตัวไม่แคร์ใคร ไม่รู้จักใคร เพราะสุดท้ายคุณจะเวียนไปหัวข้อแรก และ แน่นอน คุณจะเป็นคนแรกที่ทุกคนลืม อย่าเป็นคนที่เครียดง่าย สนุกยาก ใครๆเข้าหายาก คงจะดีกว่า ถ้าคุณจะทำตัวเป็นคนที่ยิ้มง่าย และ เป็นมิตรกับทุกคน เวลาเศร้า เก็บไว้กับคนสนิท และรู้ใจดีกว่านะคะ
6. ธุระส่วนตัว: ธุระทุกประเภทที่เป็นส่วนตัวของคุณ คุณอย่าใช้เวลาทำงานมาทำเป็นอันขาดเชียวนะคะ จำไว้เลยนะคะ เบอร์โทรศัพท์เอาไว้ให้เฉพาะลูกค้าที่จะโทรติดต่อเรื่องงาน อย่าให้เบอร์ที่ทำงานกับเพื่อนหรือแฟน แล้วก็คุยกันนอกเรื่องกันเป็นวันๆ รับรองได้ว่า อนาคตทางการงานของคุณคงจะไม่รุ่งแน่นอน เพื่อให้ประสบความสำเร็จทางการทำงานบางท่านถึงกับตั้งกฎไว้กับตัวเองเลยก็มีว่า ในชั่วโมงการทำงาน เขาจะไม่ทำอะไรที่ไม่ใช่งาน เช่น ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ ไม่คุยโทรศัพท์ส่วนตัว ไม่ไปธนาคาร สำหรับธุระส่วนตัวก็จะใช้เวลาที่ไม่ใช่เวลางานเท่านั้น
7. ความรัก: ไม่ได้เด็ดขาดสำหรับความคิดที่จะมีความรักในที่ทำงานเดียวกัน จริงๆคุณก็ทำได้ แต่รับรองได้ว่า มันจะทำลายอนาคตการทำงานของคุณ เพราะทุกคนจะมองเหมือนจับผิดว่าคุณใช้เวลาในการทำงาน มาสร้างตำนานรักมากกว่า อย่าเสี่ยงจะดีกว่านะคะ
8. เป้าหมาย: เป้าหมาย และ เป้าหมาย เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับเจ้านายของคุณ ถ้าคุณทำงานแบบมีเป้าหมายว่า งานแต่ละอย่างที่อยู่ในความรับผิดชอบของคุณมีแผนการเสร็จเมื่อไหร่ คุณมีเป้าหมายในการทำงานอย่างไรให้ประสบความสำเร็จตามที่หัวหน้า หรือ บริษัทตั้งเป้า ถึงคุณจะทำไม่ได้จริง [แต่คุณต้องพยายามเต็มที่แล้วนะ] รับรองได้ว่า หัวหน้าคุณคงมองคุณแบบไม่ธรรมดา และจะเป็นโอกาสที่ดีของคุณในการทำตัวให้น่าเชื่อถือ แต่ระวังอย่าใช้เป้าหมายมาพูดและทำไม่เคยได้เลย เพราะจะกลายเป็นการคุยอวดมากกว่า
9. บุคลิก: สุภาษิตที่ว่า ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ยังคงใช้ได้ดีเสมอ บุคลิก และ การแต่งกาย เป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่จะช่วยกำหนดความสำเร็จทางการทำงานของคุณ อย่าพยายามแต่งกายมากเกินไป หรือ น้อยเกินไป และที่สำคัญ อย่าแต่งกาย แบบที่ไม่ใช่คุณ คุณอาจจะเห็นดารา นางแบบ ใส่เสื้อตัวหนึ่งสวย แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะสวยเหมือนนางแบบถ้าคุณเอามาใส่ การแต่งกายที่ดี สำหรับการทำงาน ก็คือ สุภาพ และ โชว์บุคลิกเฉพาะของคุณออกมา
ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่า แต่งกายแบบไหนเหมาะกับคุณ ขอแนะนำให้ถามคนที่คุณสนิท และจริงใจกับคุณ คุณก็จะได้แนวการแต่งกายที่เหมาะกับคุณ หรือถ้ามีตังค์ก็อยากแนะนำให้หาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ แต่ก็ต้องระวังนะคะ หลายสถาบันสอนบุคลิกภาพ ชอบสอนให้แต่งตัวแบบเหมือนๆกันหมด จนบังความมีเสน่ห์ของคุณไปเลยก็ได้ ดีไม่ดีกลายเป็นหุ่นยนต์รุ่นต่างๆที่เราเห็นก็ทราบทันทีว่าไปเข้าสถาบันสอนบุคลิกภาพที่ไหนมา ทางที่ดีต้องปรึกษาหลายคนๆก่อนตัดสินใจนะคะ
10. หัวหน้า: หัวหน้าก็คือหัวหน้า อันนี้คุณต้องระวังอย่างมาก อย่าทำตัวสนิทกับหัวหน้า จนคุณเผลอ ทำตัวไม่เคารพ หรือ เผลอเล่นจนเกินงาม สำหรับหัวหน้า สิ่งที่ดีและ เป็นประโยชน์กับคุณมากที่สุด ก็คือ การให้เกียรติ และ แน่นอน ทุกครั้งที่คุณอยู่กับหัวหน้า หน้าที่หลักของคุณคือ การทำให้หัวหน้าของคุณ ดูดี อยู่เสมอในสายตาผู้อื่น จะด้วยคำพูด การกระทำ คุณก็ไม่มีสิทธ์ทำให้หัวหน้าของคุณกลายเป็นตัวตลก เสียหน้า หรือ ดูไม่ดีในสายตาคนอื่น โดยเด็ดขาด
11. นินทา: อย่าได้เผลอตัวไปอยู่ในกลุ่มของการนินทาใดๆในที่ทำงานโดยเด็ดขาด เพราะสุดท้ายคุณจะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด หรือดีไม่ดี กลายเป็นผู้เริ่มการนินทา โดยคุณไม่ได้ทำ ถ้าคุณต้องเจอภาวะการณ์คุยแบบไม่ได้ประโยชน์ หรือ การนินทาขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทางออกที่ดีของคุณก็คือ อย่าพูดเห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วย โดยเด็ดขาด คุณทำได้แค่ นั่งฟัง โดยไม่ออกความคิด ให้บอกว่าไม่แน่ใจ หรือ ไม่รู้ หรือขอตัวออกจากวงสนทนา อ้างว่าไปห้องน้ำหรือมีธุระต้องทำ ที่นี้คุณก็ไม่เสียเพื่อน และ ก็ไม่เสียงานอีกต่างหาก
12. สร้างสรรค์: หัวใจของความสำเร็จทางการทำงาน คือ ความคิดสร้างสรรค์ อย่าพยายามเป็นคน ใครว่าอะไร ฉันก็เห็นด้วยไปเสียทุกอย่าง คุณไม่จำเป็นต้องเถียง หรือ โต้แย้ง ถ้าคุณยังไม่มีข้อมูล หรือ ยังไม่กล้าพูด แต่ คุณต้องพยายามฝึกสมองของคุณให้คิดในแบบของคุณอยู่เสมอ ทุกการทำงานของคุณ คุณต้องพยายามคิดว่า คุณจะทำอะไรเพิ่มเติมให้งานที่ทำอยู่ปัจจุบัน ดีขึ้น สะดวกขึ้นกว่าเดิมได้ไหม หลักของการเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ง่ายๆ ก็คือ กล้าคิด คิดให้บ่อย คิดให้มาก และคุณก็จะเป็นคนคิดสร้างสรรค์
ทั้งหมด 12 ข้อ เป็นสิ่งที่เราจะต้องระลึกอยู่เสมอในการทำงาน เพื่อส่งเสริมการทำงานของเราให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ที่นี้เราก็สามารถมั่นใจได้ว่า นอกจากเราจะเก่งงานที่รับผิดชอบ เรายังเก่งในการเป็นเพื่อน และ ผู้ทำงานที่ดีขององค์กรด้วย
เป็นบทความที่ดีมากอีกบทความหนึ่ง ก็ขอฝากไว้ให้กับคนทำงานทุกคน แต่สำหรับคนที่ยังไม่ทำงาน ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้นะคะ
สร้างมนุษยสัมพันธ์ สร้างความคิดที่ดี ชีวิตการทำงานก็จะเป็นสุข
ประวัติ Retrospect

ประวัติ Retrospectเริ่มจากเกมส์ Counter strike แน็ป (ร้องนำ) ได้พบกับ บอม (มือเบส) ในร้านเกมส์ จนเริ่มสนิทคุยกันถูกคอและชอบตกปลาเหมือนกัน จึงชวนกันไปตกปลา แล้วก็วันที่ไปตกปลา แน็ปก็เอาวิทยุไปด้วย แล้วก็เอาเทปเป็นเพลงร็อคไป บอมซึ่งชอบฟังเพลงแนวนี้อยู่แล้วก็เลยพูดออกไป "ชอบฟังเพลงแบบนี้เหมือนกันเหรอ มีวงไหม เราเองก็คิดจะทำวงอยู่ แน็ปเค้าบอกว่าไม่มี ก็มาลองรวมๆกัน" เริ่มแรกจะมีอยู่ 4 คน พี่บิ๊ก,แน็ป,บอม,น๊อต โดยใช้ชื่อครั้งแรกว่า Retrospect ซึ่งเกิดจากการจิ้มลงไปใน Dictionary โดนที่ตัว R ลองหาคำที่มันดูแตกต่างไปเจอคำว่า"Retrospect" ซึ่ง แปลว่า การหวนรำลึก,คิดถึงอดีต ซึ่งในขณะนั้นกระแส Pop มาแรงมากครองตลาดในตอนนั้นทำให้วงรู้สึกว่าอยากจะมองสวนกระแสกล ับไป ดนตรี Rock ที่มันหายไปนานในช่วงเวลานั้น เลยใช้คำว่า Retrospect เป็นชื่อวงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
วง Retrospect เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อประมาณกลางปี 2001 โดยมีพี่บิ๊ก(มือกีตาร์คนเก่า)ซึ่งเป็นพี่ชายของมือเบส(บอม)เป็ นแกนหลักด้วยการ ทำเพลง โดยเสนอเป็นแนว Industrial Metal และมีแน็ปเป็นผู้เขียนกลองโปรแกรมและบันทึกเสียง หลังจากนั้นก็ได้สมาชิกเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คนคือบอม(มือเบส) ซึ่งมีเพื่อนที่เล่นดนตรีมาด้วยกันมาอยู่แล้วคือน๊อต(มือกีตาร) ์จึงชักชวนน๊อตมาร่วมวงด้วย วงชุดแรกก็จึงมี แน็ป(ตีกลอง-ร้องนำ) บิ๊ก(กีตาร์) บอม(เบส) และน๊อต(กีตาร์) ดนตรีของ Retrospect ช่วงแรกจะออกเป็นดนตรีที่หยาบกระด้าง ดิบและรุนแรงออกไปประมาณ Death* ผสมกับThrash Metal* black Metal* พวกเขาเริ่มเล่นตามงานเล็ก ๆ ต่าง ๆ ได้สักพัก จึงคิดว่าแน็ปน่าจะมาร้องอย่างเดียว แล้วหามือกลองเพิ่มสักคน มีผู้มาออดิชั่นมากมายหลายคน แต่ก็ไม่มีใครที่มีมุมมองเหมือนกับพวกเขาเลย และแล้ววันหนึ่งแน็ปก็ได้มาเจอกับเพื่อนสมัยประถม ชื่อเบิร์ดซึ่งเพื่อนแนะนำต่อมาอีกที ทราบมาว่าเบิร์ดตีกลองอยู่ และเคยประกวดที่ต่างๆมาจึงชวนให้มาลองออดิชั่นดู ซึ่งเทปกลองนั้นอัดเพื่อจะไปส่งการประกวด Hot Wave Music Awards ปรากฎว่าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี วง Retrospect จึงถือกำเนิดขึ้น
ต่อมามือกีตาร์ผู้ก่อตั้งวง(พี่บิ๊ก)จำเป็นที่จะต้องเดินทางไปศ ึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจึงทำให้ Retropect เหลือสมาชิกเพียง 4 คน กลางปี 2003 Retrospect ได้ออก e.p ชุดแรก โดยการชักชวน และแนะนำจาก นายสยาม ชุมทอง (พี่ต้น Dezember) โดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า E.P For Your Ears Onlyโดยทางวงแต่งเนื้อร้องและทำนองและเรียบเรียงตลอดจนการบันทึ กเสียงการออกแบบปก แผ่นซีดี หรือแม้แต่การสกรีนแผ่นเองเป็นจำนวน 150 แผ่น เริ่มวางขายครั้งแรกที่งาน Territory Metal Fest ซึ่งได้นำพาวงมาพบกับวง Bikini เขาคุยกันถึงแนวอุดมการณ์และมุมมองที่เหมือน ๆ กัน จึงคิดที่จะตั้งกลุ่มเพื่อที่จะรวมแนวเพลงคล้ายๆพวกเขาขึ้นมานี ่คือที่มาของ Screamlab มาจากวงดนตรีทั้งหมด 4 วงด้วยกัน ประกอบไปด้วย (Bikini,Retrospect,Housetrap,Sweet Mullet) ปลายปี 2003 Retrospect ถูกชักชวนให้ไปเล่นคอนเสิร์ตในงาน Fat Festival ครั้งที่ 2 ทางวงจึงคิดที่จะปั๊มแผ่นไปขายเพิ่มจากที่หมดไปแล้วและได้เพิ่ม เพลงพิเศษเข้าไปอีกหนึ่งเพลง ใช้ชื่อว่า E.P For Your Ears Anytime เป็นจำนวนอีก 150 แผ่น ระหว่างที่ทางวงออกทัวร์เล่นคอนเสิร์ตในที่ต่าง ๆ และขายแผ่น e.p ไปเรื่อย ๆ ก็ได้มีค่ายเพลงมาทาบทามให้ไปร่วมเซ็นสัญญาอยู่บ้าง โดยมีข้อแม้ว่าเราอาจจะต้องลดความดุดัน และความรุนแรงลงซึ่งพวกเขาคิดว่าหากเป็นเช่นนั้น Retrospect คงไม่ใช่ Retrospect พวกเขาจึงตั้งหน้าตั้งตาทำเพลงและทัวร์คอนเสิร์ตต่อไป จนวันหนึ่งพวกเขาได้พบกับพี่โน่(โปรดิวเซอร์) โดยการแนะนำของพี่เต๋า(นักร้อง Sweet Mullet)โดยพี่โน่เสนอว่าทางค่ายจีนี่ เร็คคอร์ด กำลังต้องการดนตรีที่หนักหน่วงอย่างเช่นดนตรี ของพวกเขาอยู่พอดี Retrospect จึงเริ่มทำ Demo เพื่อไปส่งให้พี่โน่ได้นำไปเสนอต่อทางค่าย Retrospect ได้เซ็นสัญญากับ จีนี่ เร็คคอร์ด ในเครือแกรมมี่ เมื่อต้นปี 2004 และได้ออกเพลง ไม่มีเธอ ซึ่งอยู่ในอัลบั้ม Showroom เป็นโปรเจคนำเสนอดนตรีแนวใหม่และศิลปินหน้าใหม่ของค่าย จีนี่ เร็คคอร์ด ต่อมาทางค่ายไฟเขียวให้ทำอัลบั้มเต็มออกมาสู่โสดประสาทแฟนๆ"Retrospect นำเสนอบทเพลงในคอนเซ็ปต์ที่ว่า" ดนตรีที่หนักหน่วงแบบ Metal บวกกับ Melody ที่อ่อนหวานแบบ Emo Rock มีเนื้อหาที่บาดลึก มีผลต่อความรู้สึกค่อนข้างสูง" จากเพลงที่เคยดิบ เถื่อน ผ่านการขัดเกลาด้วยกาลเวลาทำให้มุมมองและความคิดของวงกว้างขึ้น จนมาเป็นแนวเพลงแบบ Retrospect ในทุกวัน
แต่ละคนเคยผ่านเวทีประกวดทางดนตรีมาทั้งสิ้น...บอม และเพื่อนๆจากโรงเรียนมัธยมสาธิตวัดพระศรีฯ เคยผ่านเข้ารอบ 10 วงสุดท้าย ถึง 2 ครั้ง กับ Hot Wave Music Awards ครั้งที่ 2 และ 3 ซึ่งในขณะนั้นศึกษาอยู่ชั้น ม.2 ครั้งต่อมาก็ ม.3 ซึ่งเป็นวงอายุน้อยที่สุดในขณะนั้นจนถึงปัจจุบันที่ผ่านเข้ารอบ 10 วงสุดท้ายน๊อต พร้อมเพื่อนจากจากโรงเรียนมัธยมสาธิตวัดพระศรีฯ ก็เข้าประกวด Hot Wave Music Awards ครั้งที่ 5 แน็ป พร้อมเพื่อนโรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง ก็เคยเข้าประกวด Hot Wave Music Awards ครั้งที่ 6เบิร์ท พร้อมเพื่อนโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ก็เคยเข้าประกวด Hot Wave Music Awards ครั้งที่ 7 ตามหลังแน็ปมา 1 ปี พอดิบพอดี
ต่อมามือกีตาร์ผู้ก่อตั้งวง(พี่บิ๊ก)จำเป็นที่จะต้องเดินทางไปศ ึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจึงทำให้ Retropect เหลือสมาชิกเพียง 4 คน กลางปี 2003 Retrospect ได้ออก e.p ชุดแรก โดยการชักชวน และแนะนำจาก นายสยาม ชุมทอง (พี่ต้น Dezember) โดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า E.P For Your Ears Onlyโดยทางวงแต่งเนื้อร้องและทำนองและเรียบเรียงตลอดจนการบันทึ กเสียงการออกแบบปก แผ่นซีดี หรือแม้แต่การสกรีนแผ่นเองเป็นจำนวน 150 แผ่น เริ่มวางขายครั้งแรกที่งาน Territory Metal Fest ซึ่งได้นำพาวงมาพบกับวง Bikini เขาคุยกันถึงแนวอุดมการณ์และมุมมองที่เหมือน ๆ กัน จึงคิดที่จะตั้งกลุ่มเพื่อที่จะรวมแนวเพลงคล้ายๆพวกเขาขึ้นมานี ่คือที่มาของ Screamlab มาจากวงดนตรีทั้งหมด 4 วงด้วยกัน ประกอบไปด้วย (Bikini,Retrospect,Housetrap,Sweet Mullet) ปลายปี 2003 Retrospect ถูกชักชวนให้ไปเล่นคอนเสิร์ตในงาน Fat Festival ครั้งที่ 2 ทางวงจึงคิดที่จะปั๊มแผ่นไปขายเพิ่มจากที่หมดไปแล้วและได้เพิ่ม เพลงพิเศษเข้าไปอีกหนึ่งเพลง ใช้ชื่อว่า E.P For Your Ears Anytime เป็นจำนวนอีก 150 แผ่น ระหว่างที่ทางวงออกทัวร์เล่นคอนเสิร์ตในที่ต่าง ๆ และขายแผ่น e.p ไปเรื่อย ๆ ก็ได้มีค่ายเพลงมาทาบทามให้ไปร่วมเซ็นสัญญาอยู่บ้าง โดยมีข้อแม้ว่าเราอาจจะต้องลดความดุดัน และความรุนแรงลงซึ่งพวกเขาคิดว่าหากเป็นเช่นนั้น Retrospect คงไม่ใช่ Retrospect พวกเขาจึงตั้งหน้าตั้งตาทำเพลงและทัวร์คอนเสิร์ตต่อไป จนวันหนึ่งพวกเขาได้พบกับพี่โน่(โปรดิวเซอร์) โดยการแนะนำของพี่เต๋า(นักร้อง Sweet Mullet)โดยพี่โน่เสนอว่าทางค่ายจีนี่ เร็คคอร์ด กำลังต้องการดนตรีที่หนักหน่วงอย่างเช่นดนตรี ของพวกเขาอยู่พอดี Retrospect จึงเริ่มทำ Demo เพื่อไปส่งให้พี่โน่ได้นำไปเสนอต่อทางค่าย Retrospect ได้เซ็นสัญญากับ จีนี่ เร็คคอร์ด ในเครือแกรมมี่ เมื่อต้นปี 2004 และได้ออกเพลง ไม่มีเธอ ซึ่งอยู่ในอัลบั้ม Showroom เป็นโปรเจคนำเสนอดนตรีแนวใหม่และศิลปินหน้าใหม่ของค่าย จีนี่ เร็คคอร์ด ต่อมาทางค่ายไฟเขียวให้ทำอัลบั้มเต็มออกมาสู่โสดประสาทแฟนๆ"Retrospect นำเสนอบทเพลงในคอนเซ็ปต์ที่ว่า" ดนตรีที่หนักหน่วงแบบ Metal บวกกับ Melody ที่อ่อนหวานแบบ Emo Rock มีเนื้อหาที่บาดลึก มีผลต่อความรู้สึกค่อนข้างสูง" จากเพลงที่เคยดิบ เถื่อน ผ่านการขัดเกลาด้วยกาลเวลาทำให้มุมมองและความคิดของวงกว้างขึ้น จนมาเป็นแนวเพลงแบบ Retrospect ในทุกวัน
แต่ละคนเคยผ่านเวทีประกวดทางดนตรีมาทั้งสิ้น...บอม และเพื่อนๆจากโรงเรียนมัธยมสาธิตวัดพระศรีฯ เคยผ่านเข้ารอบ 10 วงสุดท้าย ถึง 2 ครั้ง กับ Hot Wave Music Awards ครั้งที่ 2 และ 3 ซึ่งในขณะนั้นศึกษาอยู่ชั้น ม.2 ครั้งต่อมาก็ ม.3 ซึ่งเป็นวงอายุน้อยที่สุดในขณะนั้นจนถึงปัจจุบันที่ผ่านเข้ารอบ 10 วงสุดท้ายน๊อต พร้อมเพื่อนจากจากโรงเรียนมัธยมสาธิตวัดพระศรีฯ ก็เข้าประกวด Hot Wave Music Awards ครั้งที่ 5 แน็ป พร้อมเพื่อนโรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง ก็เคยเข้าประกวด Hot Wave Music Awards ครั้งที่ 6เบิร์ท พร้อมเพื่อนโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ก็เคยเข้าประกวด Hot Wave Music Awards ครั้งที่ 7 ตามหลังแน็ปมา 1 ปี พอดิบพอดี
ประวัติสมาชิกในวง

ตำแหน่ง : ร้องนำ
วัน/เดือน/ปีเกิด : 2 กันยายน 2527
ของที่ชอบรับประทาน : อ่อมเนื้อ
ศิลปินที่ชอบ : sillyfool , static-x , staind
กิจกรรมที่ชอบทำ : ขับรถเข้าป่า , ตกปลา
จบการศึกษามาจาก : โรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง
จบการศึกษามาจาก : โรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง

ชื่อ - นามสกุล : ศุทธิพันธ์ สังข์ยุทธ (เบิร์ธ)
ตำแหน่ง : Drum
วัน/เดือน/ปีเกิด : 23 กรกฏาคม 2527
ของที่ชอบรับประทาน : ราเมง
ศิลปินที่ชอบ : Breaking Benjamin , Dream Theater , Sao Sin
กิจกรรมที่ชอบทำ : เล่นดนตรี , ฟังเพลง , เล่นเกมส์
จบการศึกษามาจาก : โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย

ชื่อ - นามสกุล : ธนพล ศรีกาญจนา (น๊อต)
ตำแหน่ง : Guitar
วัน/เดือน/ปีเกิด : 13 พฤษภาคม 2527
ของที่ชอบรับประทาน : ขนม , ไอศกรีม
ศิลปินที่ชอบ : Martin Taylor , Killswitch engage
กิจกรรมที่ชอบทำ : เล่นเกมส์ , เที่ยวทะเล, ดูหนัง, นอนหลับ
จบการศึกษามาจาก : โรงเรียนมัธยมสาธิตวัดพระศรีฯ

ชื่อ - นามสกุล : ณพวัชร คชาชีวะ (บอม)
ตำแหน่ง : Bass
วัน/เดือน/ปีเกิด : 19 เมษายน 2527
ของที่ชอบรับประทาน : Damien rice
ศิลปินที่ชอบ : sillyfool , static-x , staind
กิจกรรมที่ชอบทำ : ถ่ายภาพ , วาดรูป , ขี่มอเตอร์ไซด์ , ดูหนัง , เล่นดนตรี
จบการศึกษามาจาก : โรงเรียนมัธยมสาธิตวัดพระศรีฯ

ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ : พรเทพ ภิญญศรี
ชื่อเล่น : หนุ่ย
วันเกิด : 13 มีนาคม 2531
อายุ : 21
รหัสประจำตัวนักศึกษา : 4921408023
เบอร์โทร : 085-172-0833
E-mail : sabypai@hotmail.com
รหัสประจำตัวนักศึกษา : 4921408023
เบอร์โทร : 085-172-0833
E-mail : sabypai@hotmail.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)